ไร้น้ำยา

ที่มา: คอลัมน์บทบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ ปีที่ 11 ฉบับที่ 2827 ประจำวัน ศุกร์ ที่ 25 มิถุนายน 2010

กรณีนายชวรัตน์ ชาญวีระกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำผู้ว่าราชการจังหวัดที่อ้างว่ามีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวจำนวน 23 คน ไปหารือข้าราชการด้านการท่องเที่ยวและศึกษาดูงานที่ประเทศสเปน ตามโครงการพัฒนาวิสัยทัศน์และสมรรถนะผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในการบริหารราชการจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2553 ระหว่างวันที่ 14-21 มิถุนายนที่ผ่านมา

ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำชับรัฐมนตรีและข้าราชการทุกหน่วย รวมทั้ง ส.ส. และ ส.ว. งดเดินทางไปทัศนศึกษาต่างประเทศชั่วคราว ถ้าโครงการใดที่ไม่มีความจำเป็น โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงมหาดไทยขอให้ระงับโครงการเดินทางไปดูงานต่างประเทศไว้ก่อน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไม่เอื้ออำนวย แต่นายชวรัตน์กลับนำข้าราชการกระทรวงมหาดไทยเดินทางไปตามโครงการดังกล่าว

ขณะที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็มีปัญหากับคณะกรรมาธิการต่างๆที่เดินทางไปต่างประเทศถึง 12 คณะ โดยอ้างว่าศึกษาดูงาน ทั้งที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ขอร้องว่าให้ช่วยประหยัดงบประมาณ ซึ่งแต่ละคณะมีค่าใช้จ่ายในการดูงานประมาณ 2.3 ล้านบาท และบางคณะใช้จนเหลือไม่ถึง 10 บาท ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากขอร้อง เพราะเป็นอำนาจของคณะกรรมาธิการ

เหตุการณ์ดังกล่าวจึงสะท้อนให้เห็นชัดเจนถึงจิตสำนึก ความเสียสละ และความรับผิดชอบของรัฐมนตรีและนักการเมืองไทยว่าเป็นอย่างไร

ที่สำคัญทุกฝ่ายรู้ดีว่าการอ้างเดินทางไปดูงานหรือศึกษางานในต่างประเทศแต่ละปี ที่กลายเป็นประเพณีที่เกือบทุกกระทรวง ทบวง กรม จะต้องกำหนดไว้ในแผนงบประมาณนั้น เป็นการไปศึกษาดูงาน หรือไปเที่ยว ผลาญงบประมาณที่เป็นเงินภาษีของประชาชน

ไม่ว่าจะมีเสียงประณามและวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร นักการเมืองหรือข้าราชการก็ไม่สนใจ และยังไม่สำนึกต่อกระแสสังคมเลยแม้แต่น้อย

โดยเฉพาะกรณีกระทรวงมหาดไทยที่นอกจากไม่เกรงกลัวคำสั่งของนายอภิสิทธิ์แล้ว ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นชัดเจนว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ได้แค่ไร้น้ำยาเท่านั้น แต่ยังไร้ศักดิ์ศรีที่จะเป็นผู้นำรัฐบาลอีกด้วย

อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาว่า ทำไมนายอภิสิทธิ์จึงไม่กล้าแตะต้องรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ทั้งที่มีข่าวพาดพิงเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันมากมาย

นายอภิสิทธิ์จึงไม่ได้เป็นแค่ผู้นำรัฐบาลที่ไร้น้ำยาและไร้ศักดิ์ศรีเท่านั้น แต่ยังถูกประณามว่าเป็น “ผู้นำมือเปื้อนเลือด” ที่ไร้ความชอบธรรมที่จะเป็นผู้นำประเทศต่อไปอีกด้วย